นวัตกรรมสารเคลือบกระจกทำความสะอาดตัวเอง Self Cleaning Coating ที่ทำให้กระจกธรรมดาสามารถทำความสะอาดตัวเองได้ ด้วยพลังงานจากแสงอาทิตย์ หมดกังวลกับปัญหาเรื่องกระจกสกปรก ดูแลทำความสะอาดยากอีกต่อไป"
อากาศรอบอาคารสะอาดกว่า
SOLARCLEAN สามารถย่อยสลายสารระเหยอินทรีย์ที่พัดผ่านพื้นผิวได้ เช่น ไอเสียรถยนต์ ก๊าซพิษ จึงช่วยลดปริมาณสารระเหยอินทรีย์ และทำลายเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงปรับสภาพอากาศรอบอาคารให้ดียิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มคุณภาพอากาศที่แวดล้อมรอบตัวอาคาร ให้คุณได้มีอากาศที่สดชื่นกว่า
ประหยัดและปลอดภัยกว่า
การทำความสะอาดกระจกอาจกลายเป็นเรื่องที่เสียเวลาและค่าใช้จ่าย และอันตราย เช่น การใช้วิธีการโรยตัว แต่เมื่อใช้ SOLARCLEAN ลดความจำเป็นในการทำความสะอาดกระจก และอุบัติเหตต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการทำความสะอาดจึงสามารถหลีกเลี่ยงได้
SOLARCLEAN เป็นนวัตกรรมในการทำความสะอาดกระจกภายนอกอาคาร สารเคลือบอนุภาคนาโน modilied Titanium Dioxide กระจกธรรมดาจะสามารถทำความสะอาดตัวเองได้ภายในเวลา 1 สัปดาห์หลังจากที่เคลือบ ทำให้กระจกบ้านสวย ใสสะอาดได้ยาวนานกว่าเพราะ SOLARCLEAN จะทำความสะอาดกระจกใน 2 ขั้นตอน ซึ่งขั้นตอนการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพนี้จะเกิดตลอดเวลาแม้ในเวลากลางคืน ด้วยพลังธรรมชาติ ผนังอาคารจึงคงความสะอาดและความสวยงามได้ยาวนานกว่า ลดค่าใช้จ่าย ดูการทำงานของ solarclean ที่นี่
1).ขั้นตอนสลายคราบสกปรก ลดการเกิดไฟฟ้าสถิตย์ คราบไขมันและฝุ่นละอองอินทรีย์ที่ติดอยู่บนพื้นผิวกระจกจะค่อยๆ ถูกย่อยสลายด้วย ด้วย ปฏิกิริยา Photocatalyst ใน Solarclean เมื่อกระจกโดนแสงอาทิตย์
Photocatalyst คือการเกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับแสงด้วยการดูดกลืนรังสีอัลตราไวโอเล็ตหรือแสงสว่าง ทำให้เกิดประจุไฟฟ้าเคมีต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดอนุมูลไฮดรอกซิล (ไฮดรอกซิลมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อสูงกว่าคลอรีนถึง 3 เท่า และดีกว่าการใช้โอโซนถึง 1.5เท่า) ในอากาศที่สามารถย่อยสลายจุลินทรีย์ต่างๆ หรือสลายอนุภาคสารอินทรีย์ขนาดเล็กได้ โดยไม่ต้องใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย
2).ขั้นตอนชำระล้างคราบสกปรก คราบสกปรกถูกชะล้างออกอย่างง่ายดายเมื่อมีน้ำเพียงพอที่ไหลผ่านผิวกระจก น้ำจะไหลเป็นแผ่นไม่เกาะเป็นหยด โดยที่หยดน้ำบนผิวกระจกจะแผ่กระจาย(Super Hydrophilic) จึงไม่เกิดคราบ คงความใส ไม่ฝ้ามัว
Super Hydrophilic คือปฏิกิริยาที่ทำให้หยดน้ำที่เกาะบนพื้นผิวแผ่กระจายเป็นฟิล์มบางๆ นั่นคือเมื่อน้ำตกกระทบกับพื้นผิวของผนังอาคาร หยดน้ำก็จะรวมตัวกันเป็นแผ่นไหลลงมาด้านล่าง ลดการเกาะของหยดน้ำ ผนังอาคารจึงใสไม่เป็นฝ้ามัว ไม่เป็นคราบ คราบฝุ่นต่างๆ ที่เกาะอยู่ที่ผิวผนังอาคารจะถูกชะล้างออกได้ง่ายดายเพียงมีน้ำไหลผ่านอย่างเพียงพอ ซึ่งจะทำความสะอาดพื้นผิวผนังอาคารง่ายกว่าหยดน้ำที่แตกกระจายออกเป็นหยดๆ
งานวิจัยหลายชิ้นในการทดลองได้แสดงให้เห็นว่าการใช้สารที่มีปฏิกิริยา Photocatalyst สามารถช่วยลดปริมาณอนุภาคขนาดเล็ก PM2.5 PM10 ชนิดคาร์บอนอินทรีย์ได้ รวมไปถึงก๊าซพิษต่างๆที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ อ่านเพิ่มเติม..>>
ผิวเคลือบ solarclean อาจเสียหายได้หากดูแลรักษาอย่างไม่ถูกต้อง คนที่ทำความสะอาดหน้าต่าง ต้องได้รับแจ้งว่ามีกระจกทำความสะอาดตัวเอง มีความเป็นไปได้สูงที่ผิวเคลือบจะเสียหายจากสารเคมี และการขัดถูที่รุนแรง แต่โชคดีที่ คุณสามารถเคลือบ solarclean ให่ได้ แตกต่างจากกระจกทำความสะอาดตัวเองดั้งเดิที่ การซ่อมแซมจะไม่สามารถทำได้ ต้องเปลี่ยนแผ่นใหม่
ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของอาคาร การทำความสะอาดตัวเองของสารเคลือบ solarclean อาจอยู่ได้ระหว่าง 3-10 ปี
แม้ว่ากระจกได้รับการเคลือบไปแล้ว แต่ยังคงต้องมีการดูแลบ้าง แต่น้อยกว่ากระจกธรรมดา เนื่องมาจากการสะสมคราบจากสาพแวดล้อมหากฝนไม่ตกเป็นเวลานาน หากต้องการขจัดคราบสกปรกออก ให้ใช้ผ้านุ่มและน้ำสบู่ที่ปราศจากตัวทำละลาย ล้างและทำขั้นตอนนี้ซ้ำหากจำเป็น สำหรับคราบสกปรกฝังแน่น ให้ใช้น้ำยาเช็ดกระจกชนิดไม่มีสารกัดกร่อน ใช้ผ้าสะอาดและ อย่าถูสิ่งสกปรกหรือเศษผ้าลงบนพื้นผิวของกระจก
การทดสอบง่ายๆ คือการพ่นน้ำที่พื้นผิวและเปรียบเทียบกับกระจกธรรมดา ดูว่านำ้ไหลแผ่เป็นผืน ไม่เกาะกันเป็นหยด พื้นผิวกระจกที่ปนเปื้อนซิลิโคน หรือเพิ่งล้างด้วยสารซักฟอกก็อาจจะเกิดเป็นลักษณะการไหลแผ่ของน้ำคล้ายกันได้
หลังเคลือบสาร เมื่อกระจกนำไปติดตั้ง อาจใช้เวลาถึงเจ็ดวัน สารเคลือบจึงจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากการกระตุ้นจากปฏิกิริยาเคมีระหว่างรังสียูวีจากแสงแดดธรรมชาติ ออกซิเจน และสารเคลือบ
สารเคลือบพิเศษที่เปลี่ยนกระจกธรรมดาให้กลายเป็นกระจกทำความสะอาดตัวเองชนิดพิเศษที่มีพื้นผิวที่ปราศจากสิ่งสกปรกและสิ่งสกปรก การเคลือบทำความสะอาดตัวเองบนกระจกแบ่งออกเป็นสองประเภท: hydrophobic และ hydrophilic การเคลือบสองประเภทนี้ทั้งสองทำความสะอาดตัวเองผ่านการกระทำของน้ำ, อดีตโดยหยดกลิ้งและหลังด้วยน้ำแผ่นที่ดำเนินการสิ่งสกปรกออกไป โดย solarclean เป็นชนิด hydrophilic ซึ่งต้องอาศัยแสงอาทิตย์ในการทำงาน